การผันเปลี่ยนในโลกเพลงป๊อปเป็นแรงบันดาลใจให้ควีนบีสร้างมันขึ้นใหม่ในแบบของเธอ
36
ในเดือนธันวาคมปี 2013 อยู่ๆ Beyoncé ปล่อยอัลบั้มชุดที่ 5 ซึ่งใช้ชื่อเดียวกับตนเองทาง iTunes แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ตอนนั้นเองที่โลกของเพลงป๊อปต้องสั่นสะเทือน เมื่อหนึ่งในศิลปินที่ประสบความสำเร็จที่สุดคนหนึ่งของวงการดนตรีเลือกที่จะปล่อยผลงานชิ้นสำคัญด้วยวิธีปกติธรรมดา แทนที่จะมีการอัปเดตความเคลื่อนไหวกับแฟนเพลงอยู่เรื่อยๆ จนปล่อยอัลบั้มในที่สุด แต่ไม่ว่าจะถูกโปรโมตด้วยวิธีไหน BEYONCÉ ก็ถือเป็นความสำเร็จในสายอาชีพของเธอ โดยตลอดทั้ง 14 เพลง Beyoncé ท้าทายตัวเองทั้งในแง่การสร้างงานศิลปะและความรู้สึก ทั้งยังเผยมุมอ่อนไหว เรื่องเพศ และความสุขของเธอผ่านเพลงที่นำเสนอความสามารถในการร้องที่ทั้งแข็งแรงและรอบด้าน
ซาวด์ป๊อปเปลี่ยนแปลงไปตามทศวรรษที่ผันผ่าน เพลงที่ได้รับอิทธิพลจากอิเล็กโทรป๊อปถือครองพื้นที่บนวิทยุและชาร์ตที่ Beyoncé และศิลปินสายอาร์แอนด์บีมากมายเคยยึดพื้นที่ไว้ในช่วงปี 2000 ใน BEYONCÉ นักร้องผู้ทรงอิทธิพลคนนี้ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ไม่ว่าวิทยุจะเปิดเพลงของเธอหรือไม่ เธอก็ยังเป็นหนึ่งในศิลปินตัวท็อปของวงการเพลงป๊อป และเธอไม่ได้พลิกวิถีของป๊อปเสียทีเดียว แต่เลือกดึงเอาแง่มุมที่เย้ายวนที่สุดของมันมาเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนป๊อปบทใหม่ต่างหาก
“ผมง่วนทำงานตลอดเวลาเพื่อจะได้ค้นพบความเป็น Beyoncé”
BEYONCÉ มีศิลปินที่เป็นผู้ขับเคลื่อนวัฒนธรรมมาร่วมงานด้วยมากมาย เช่น Drake ที่มาเป็นภาพสะท้อนที่เข้มแข็งของเธอในเพลงที่เผยถึงเบื้องลึกในชีวิตอย่าง “Mine” และ Frank Ocean ที่ขลุกตัวอยู่กับ Beyoncé เพื่อสร้างสรรค์ “Superpower” เพลงที่ผ่านโปรดักชันคุณภาพคับแก้วของ Pharrell Williams แต่ความตั้งใจของ Beyoncé ที่จะออกสำรวจขอบเขตทางดนตรีก็ทำให้อัลบั้มชุดนี้ยืนหยัดได้ด้วยตัวของมันเองผ่านการรับรู้กระแสในโลกของป๊อป แต่ก็เลือกที่จะเดินบนทางที่แตกต่างอย่างน่าตื่นเต้น BEYONCÉ เปรียบเสมือนจุดพลิกผันที่สำคัญสำหรับ Beyoncé กับการก้าวเข้าสู่หมุดหมายของสายอาชีพที่เธอสามารถนิยามการเป็นศิลปินป๊อปผู้โด่งดังได้ตามจังหวะเวลาและในแบบของเธอเอง